วันเสาร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2564

รีวิวอาคารเรียนโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่




    โรงเรียนนารีรัตน์เริ่มเปิดสอนปี 2464 โดยกระทรวงธรรมการ ได้มีตราบุษบกตามประทีปน้อยที่ 13/1148 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2464 อนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนรัฐบาล ประจำมณฑล มหาราษฎร์ฝ่ายสตรีและให้นางสาวอนงค์ ภูมิรัตน์ เป็นครูใหญ่ มหาเสวกตรี พระยาเพ็ชรรัตน์สงคราม อนุญาตให้ใช้สโมสรเสือป่าเก่า 2 หลัง เป็นสถานที่เล่าเรียน และได้จัดพิธีเปิดป้ายโรงเรียน วันที่ 15 – 16 มิถุนายน 2464 สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 
   พ.ศ. 2466 นางสาวเจริญ ยุกตะเสวี เป็นครูใหญ่แทนนางสาวอนงค์ ภูมิรัตน์ซึ่งย้ายตามผู้ปกครองไปกรุงเทพฯ
   พ.ศ. 2468 นางสาวทองอยู่ สปริงเกอร์ (นางทองอยู่ คงอุดม) เป็นครูใหญ่แทน นางจินดา บริหารสิกขะกิจ ที่ย้ายตามสามีไปรับราชการมณฑลภูเก็ต
   พ.ศ. 2469 ทางราชการประกาศยุบ มณฑลมหาราษฎร์ จัดตั้งเป็นจังหวัดโรงเรียนสตรีประจำมณฑลมหาราษฎร์ “นารีรัตน์” จึงเปลี่ยนเป็นโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดแพร่ “นารีรัตน์”
   พ.ศ.2475 จังหวัดได้จัดสร้างโรงเรียนขึ้นใหม่ที่หน้าจวนข้าหลวง ถนนคุ้มเดิม ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนประจำจังหวัดชาย และให้ย้ายโรงเรียนสตรีจากสโมสรเสือป่า (คือบริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองแพร่ในปัจจุบัน) มาเปิดสอน ณ โรงเรียนที่สร้างใหม่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ในปัจจุบัน
   ปีการศึกษา 2557 มีแผนการจัดชั้นเรียน12-13-13 / 13-14-14 จำนวนนักเรียน 3,382 คน จำนวนครู 177 คน ลูกจ้างประจำ 8 คน ลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 45 คน
  
พระราชดำรัสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ตรัสถึงโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ว่า  "โรงเรียนนี้เขาเก่ง นักเรียนเก่ง ครูดี" 

คำขวัญของโรงเรียน      วินัยดี กีฬาเยี่ยม เปี่ยมคุณธรรม เลิศล้ำปัญญา พัฒนาจิตใจ 

สัญลักษณ์ของโรงเรียน เป็นรูปนางแก้วถือคฑาเพชร
                                      หมายถึง ผู้งามพร้อมด้วยความดี

สีประจำโรงเรียน            สีฟ้า หมายถึง อาณาเขตอันที่หาสิ้นสุดมิได้

                                      สีน้ำเงิน หมายถึง เกียรติคุณความดีอันสูงส่ง

อัตลักษณ์ของโรงเรียน  มารยาทงามตามแบบนารีรัตน์

ปณิธานของโรงเรียน     เสริมสร้างความรู้ ควบคู่คุณธรรม นำสู่การมีทักษะชีวิตที่ดี 


 
1.อาคารน้ำเพชรหรือพิพิธภัณฑ์การศึกษา


อาคารไม้เก่าๆ  ที่สวยงามอย่างนี้  หาชมได้ยากแล้ว  สมควรอนุรักษ์ไว้

พระราชดำรัสในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี

เมื่อครั้งเสด็จฯ  คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่  และทอดพระเนตรเห็นอาคารน้ำเพชร

โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่

เมื่อวันจันทร์  ที่  5  พฤศจิกายน  พ.ศ.  2533 " 



ประวัติและความเป็นมา🎓

      เป็นอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวแพร่ทุกหมู่เหล่า ที่ได้พร้อมใจกันร่วมสร้างอาคารน้ำเพชรขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) ต่อมาเมื่อครั้งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ เมื่อ พ.ศ.2533 และได้ทอดพระเนตรเห็นอาคารน้ำเพชร จึงมีพระดำรัสว่า "อาคารไม้เก่าๆ ที่สวยงามอย่างนี้ หาชมได้ยากแล้ว สมควรอนุรักษ์ไว้" ประกอบกับตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ที่มุ่งปลูกฝังจิตสำนึกที่ถูกต้อง สร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ส่งเสริมศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนให้มีการส่งเสริมการดำเนินงานจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตทุกรูปแบบ โรงเรียนนารีรัตน์จึงได้จัดตั้ง พิพิธภัณฑ์การศึกษา โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ขึ้น โดยใช้พื้นที่ในอาคารน้ำเพชร โดยได้จัดนิทรรศการจำนวน  4  ห้อง

 

ห้องที่  1  “ห้องนำเสนอนารีรัตน์”  ได้จำลองบรรยากาศห้องเรียน  และมีการนำเสนอผลงานตามมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียน  22  มาตรฐาน  และนำเสนอวีดิทัศน์ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนและอาคารพิพิธภัณฑ์  ก่อนเข้ารับชมพิพิธภัณฑ์การศึกษาโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่

ห้องที่  2  “ห้องการศึกษาในอดีต”  นำเสนอประวัติของโรงเรียน  ทำเนียบของผู้บริหารโรงเรียน มีการจำลองหุ่นของอาจารย์คุณหญิงบัวเขียว  รังคสิริ  และนักเรียนในอดีต  ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ  มาเก็บรวบรวมไว้  ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสถึงบรรยากาศของนารีรัตน์ครั้งอดีตกาลได้อย่างดี

ห้องที่  3  “ห้องประวัติการสร้างอาคารน้ำเพชร”  ได้จำลองแบบการสร้างอาคารน้ำเพชรและนำเสนอเกี่ยวกับบันทึกประวัติอาคารน้ำเพชร  ตลอดจนการนำเสนอในส่วนของตำราและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนของนักเรียนและคุณครูในสมัยก่อน

ห้องที่  4  “ห้องเกียรตินารี”  ห้องนี้เป็นห้องสีทองขนาดใหญ่  ประดับตกแต่งอย่างสวยงามนำเสนอเกียรติคุณ  คุณงามความดี  และผลงานของชาวนารีรัตน์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน  

มีพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณต่อโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่  โดยเสด็จทรงดนตรีไทย ทรงซอด้วง ร่วมกับคณะครูและนักเรียนโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ และพระองค์ได้มีพระราชดำรัสถึงโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ว่า “โรงเรียนนี้เขาเก่ง  นักเรียนเก่ง  ครูดี” เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2536 ณ หอไทยนิทัศน์ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติยศอันสูงสุดของชาวนารีรัตน์  


ลักษณะและภูมิทัศน์

    พิพิธภัณฑ์การศึกษา โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของอาคารน้ำเพชร ซึ่งเป็นอาคารไม้สูง 2 ชั้น แบบล้านนาประยุกต์ ภายในอาคารแบ่งเป็นห้องจำนวน 6 ห้องต่อชั้น อาคารหลังนี้เป็นอาคารเกียรติยศและเป็นที่ตั้งขององค์กรที่สนับสนุนการศึกษาของโรงเรียน ได้แก่ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่

    สมาคมศิษย์เก่านารีรัตน์ มูลนิธิคุณหญิงบัวเขียว รังคสิริ มูลนิธิศิษย์เก่านารีรัตน์ ห้องประชุมน้ำเพชร ห้องนำเสนอ และพิพิธภัณฑ์การศึกษา โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่ อาคารน้ำเพชรตั้งอยู่ทางส่วนหน้าของโรงเรียน ทางด้านหน้าอาคารเป็นถนน ลานสนามหญ้าและสนามบาสเกตบอล ส่วนด้านข้างทางทิศตะวันตกเป็นลานสำหรับจอดรถ ทำให้เกิดพื้นที่ว่างที่ช่วยส่งเสริมมุมมองไปสู่ตัวอาคาร ส่วนสภาพภูมิทัศน์บริเวณอื่น ๆ จะมีที่ว่างค่อนข้างน้อย มีต้นไม้บ้างเป็นกลุ่มๆ เนื่องจากอาคารเรียนและอาคารประกอบต่าง ๆ ตั้งอยู่หนาแน่น



2.อาคารเกล็ดแก้ว


 อาคาร 2 มีทั้งหมด 
4 ชั้น ใต้ถุนโล่ง และมีทางเดินเชื่อมไปอาคาร 5 

ชั้นที่1  เป็นที่โล่ง มีโต๊ะและเก้าอี้ให้นั่งเล่น มีเครื่องออกกำลังกายและยังมีห้องพละศึกษา

ชั้นที่2  เป็นห้องพักครู รวมถึงห้องของผู้อำนวยการ 

ชั้นที่3  เป็นห้องคอมพิวเตอร์

ชั้นที่4  เป็นห้องเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนคิลป์



3.อาคารแววมณี



อาคาร 3 มีทั้งหมด 4 ชั้น  อาคารนี้เป็นอาคารเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมคึกษาปีที่ 1



4.อาคารสีนิลกาฬ





มีทั้งหมด 4 ชั้น 
ส่วนใหญ่เป็นห้องวิทยาศาสตร์และห้องพักครู มีทางเดินเชื่อมไปยังอาคาร 5

ชั้นที่1  เป็นห้องพักครูและห้องเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

ชั้นที่2 เป็นห้องพักครูสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และห้องพักครูสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 

ชั้นที่3  เป็นห้องพักครูสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเป็นห้องเรียน ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ในวิชาฟิสิกส์ของระดับมัธยมปลาย

ชั้นที่4  เป็นห้องเรียนและห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ในวิชาชีววิทยาและเคมีระดับมัธยมปลาย


5.อาคารมุกดาหาร




อาคาร 5 มีทั้งหมด 4ชั้น เป็นตึกอำนวยการอยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร 2 และอาคาร 5 มีทางเดินเชื่อมไปยังอาคาร 2 และอาคาร 5

ชั้นที่1 เป็นห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนวิทยาศาสตร์ และห้องพักครูสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศภาษาจีน และมีร้านถ่ายเอกสาร

ชั้นที่2 เป็นห้องทะเบียน ห้องวิชาการหรือสำหรับติดต่องาน และมีห้องปกครองอยู่ทางขวามือสุด

ชั้นที่3 เป็นห้องโสตทัศนศึกษา 

ชั้นที่4 เป็นห้องเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนวิทย์-คณิต






6. อาคารกาญจนรัตน์ 
 
    เป็นอาคารเรียนตึกที่หกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2-3  มี 6 ชั้น ชั้นละ 9 ห้อง มีลิฟต์ 2 ตัว สร้างในสมัยผู้อำนวยการเจียร ดุษณีย์วงศ์ (งบประมาณปี 2539 - 2541)

ชั้นที่ 1 เป็นใต้ถุน มีห้องดนตรี 1 ห้อง ห้องพักครูระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และธนาคารโรงเรียน

ชั้นที่ 2 มีห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติและห้อง E-Libraly

ชั้นที่ 3 เป็นห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีห้องพักครูชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3, ห้องศูนย์การเรียนการสอนภาษาญี่ปุ่น, ห้องพักครูภาษาเกาหลี

ชั้นที่ 4 เป็นห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีห้องพักครูของกลุ่มสาระภาษาไทย

ชั้นที่ 5  เป็นห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และมีห้องพักครูชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ชั้นที่ 6 เป็นห้องเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีห้องพักครูของกลุ่มสาระสังคมศึกษาและห้องสมุดของกลุ่มสาระสังคมศึกษา ห้องจริยธรรม






7. อาคารจรัสฉายไพฑูรย์ 

    เป็นอาคารที่สร้างใหม่ สร้างในสมัยผู้อำนวยการ สุพงษ์ รังษี เป็นอาคารเรียนของนักเรียนของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 - 5

ชั้นที่ 1 เป็นห้องน้ำแบ่งออกเป็น 2 ฝากโดยมีหอประชุมหรือเรียกว่าโสตทัศนศึกษา2 คั่นตรงกลาง

ชั้นที่ 2 เป็นอาคารเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนศิลป์

ชั้นที่ 3 เป็นอาคารเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนศิลป์ และ มัธยมศึกษาปีที่ 5 แผนวิทย์

ชั้นที่ 4 เป็นอาคารเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แผนวิทย์






   
 8. อาคารเฉลิมราชย์ไอศูรย์บุษราคัม

        เป็นอาคารที่สร้างในสมัยผู้อำนวยการ จรรยา มโนรส 

ชั้นที่ 1 เป็นห้องพยาบาลและห้องเก็บขยะรีไซเคิล 

ชั้นที่ 2 เป็นห้องพักครูแนะแนว และห้องเรียนวิชาแนะแนว

ชั้นที่ 3 เป็นห้องเรียนวิชานาฏศิลป์และดนตรีไทย





9. หอประชุมนพรัตน์

        สร้างในสมัยผู้อำนวยการธัญญลักษณ์ จ้อยจรูญ ด้านหน้าอาคารจะเป็นสนามบาสเอาไว้เรียนพละศึกษา

ชั้นที่ 1 เป็นโรงอาหารและด้านข้างสวัสดิการของโรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่

ชั้นที่ 2 เป็นหอประชุม มีไว้จัดกิจกรรมเข้าค่ายต่างๆ






10. ศาลาลังคสิริ